พูดถึงหนังใหม่ หนังชนโรงที่ถูกเลื่อนฉายไปเป็นปีหน้า จากที่จะเป็นหนังชนโรงในช่วงธันวานี้อย่างน่าเสียดาย ดูน ก็เป็นเรื่องหนึ่ง โดย Dune เป็นหนังชนโรงที่สร้างมาจากนิยายวิทยาศาสตร์บทความอันยิ่งใหญ่ของ Frank Herbert ที่ตีพิมพ์ครั้งแรกในปี 1965 และเป็นหนึ่งในผลงานที่สำคัญและมีผลกระทบในวงการวรรณกรรมแฟนตาซีมากที่สุดในประวัติศาสตร์ วันนี้จะมาพูดถึงเรื่องย่อของ “Dune” ฉบับนิยายเล่มแรกกับเล่มที่สองก่อนก็แล้วกันนะ
Dune เป็นเรื่องราวของโลกแห่งอาคาริส (Arrakis) หรือเรียกสั้นๆ ว่า “ดูน” (Dune) ซึ่งเป็นโลกที่แห่งดวงดาวแห่งหนึ่งในจักรวาลที่มีความสำคัญมาก เพราะเป็นแหล่งที่หายากที่สุดของสารมุอาดิบ (Melange) หรือที่เรียกว่า “เดอร์ปิล” (Spice) ซึ่งเป็นสารที่มีคุณสมบัติพิเศษและมีค่าเป็นพันล้านแดลร์ในตลาดระหว่างดวงดาว
นายอาฟรีด อาเรนต์ (Paul Atreides) เป็นลูกชายของอามีระแห่งแจ้งซีระ (House Atreides) และถูกส่งไปคุ้มครองแห่งดูน ในฐานะของบรรพบุรุษหนุ่มหลานแห่งบรรพบุรุษเอลลีต ซึ่งเป็นอิสระเมืองแห่งดูน แต่เขาพบว่าตัวเองอยู่ในสถานการณ์ที่ร้ายแรง เมื่อต้องเผชิญกับการรุกรานและหมุนเวียนของการเมืองในดูน นายอาเรนต์ต้องต่อสู้เพื่อความอยู่รอดและความยาวนานของบรรพบุรุษของเขา เรื่องราวยังแสดงให้เห็นถึงชาวที่ถูกเรียกว่าเฟรมแมน (Fremen) ที่อาศัยอยู่ในทะเลทรายแห่งดูน และมีความรู้เกี่ยวกับเดอร์ปิลอย่างลึกซึ้ง นายอาเรนต์ต้องร่วมมือกับเฟรมแมนเพื่อต่อสู้กับการค้ามิตรแห่งดูน และผู้ควบคุมมุอาดิบอย่างเจ้าแห่งอาคาริส (House Harkonnen) ที่พยายามครอบครองดูน
Dune เป็นนิยายที่ทอดทิ้งแนวคิดทางการเมือง ศาสนา และอำนาจ และมีการสร้างโลกที่หลากหลายและน่าทึ่ง ผู้อ่านได้พบกับตัวละครที่มีความซับซ้อนและพัฒนาการไปในทิศทางที่น่าสนใจ นี่คือเรื่องแรกของชุดนิยาย Dune หลังจากเหตุการณ์ในเล่มแรกของ “Dune” นายอาเรนต์ อาเรนต์และครอบครัวของเขาได้ครองแห่งดูนและสร้างพื้นฐานสำหรับการครอบครองสารมุอาดิบ (Melange) และมีอิสระเมืองแห่งดูน เฟรมแมน (Fremen) ที่ให้กำเนิดเขาเป็นนายจิ้งจอกแห่งดูน (Muad’Dib) ซึ่งเป็นเซนต์แห่งอิสลามและผู้ที่ถูกพิพากษาว่าเป็นพระเจ้าแห่งดูน
เล่มสอง “Dune Messiah” เริ่มต้นเมื่อนายอาเรนต์และครอบครัวของเขาได้ครองแห่งดูนมาอย่างนาน แต่การครอบครองนี้ไม่ได้มาพร้อมกับความสุข ความอำมหิตและความอิสระในดูนถูกสลายลงโดยความขัดแย้งระหว่างศาสนาแห่งเซนต์และการปกครองที่ฉายาว่า “พระพิพากษา” (Regency) ที่นายอาเรนต์ต้องบังคับให้ดูนยอมรับ นายอาเรนต์กลายเป็นเป้าหมายของการโจมตีและการรวมตัวกันของศาสนาแห่งเซนต์และความอำมหิตเพื่อหมุนเวียนความอึดอัดในดูน มีหลายฝ่ายที่ต้องการตามสร้างความแตกแยกและความวุ่นวายในดูน นายอาเรนต์ต้องใช้ความฉลาดและความชาญฉลาดของเขาเพื่อปกป้องตัวเองและครอบครัวของเขา ทั้งนี้เรื่องราวยังเผยแพร่ความรู้สึกของนายอาเรนต์ที่รู้ว่าเขาต้องแสวงหาวิญญาณและสามารถในการนำมุอาดิบและดูนไปสู่การเปลี่ยนแปลงที่ใหญ่ในจักรวาล
“Dune Messiah” เป็นภาคต่อที่เข้มข้นและซับซ้อน ที่สะท้อนถึงความรับผิดชอบในการครอบครองและความเสียสละ มันเป็นเรื่องราวที่ต่อสู้กับความพยายามในการครองแห่งดูนและผลของอำนาจที่ใช้ในทางที่ถูกหรือไม่ถูกต้อง และยังพูดถึงความชุมนุมและความรู้สึกที่มาพร้อมกับการสร้างวัฏจักรทางเศรษฐกิจและการเมือง ถึงตรงนี้ก็จะจบตอนที่สองของซีรีส์ Dune พอดี ส่วนฉบับหนังชนโรงจะเป็นยังไงก็ต้องไปรอดูกันในโรงอีกที